หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

XXX HOLIC ~

XXX HOLIC

   ยินดีต้อนรับท่านที่เข้ามาเอง หรือหลงเข้ามานะฮะ เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ จขบ. ชอบมาก เนื้อหาสอนใจ จนจขบ.นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เลยล่ะ มาทำความรู้จัก xxx holic กันเถอะ 


   xxxโฮลิค (Horikku ) (อังกฤษ: xxxHOLiC - อ่านว่า โฮลิค) เป็น การ์ตูนญี่ปุ่น ผลงานของกลุ่มนักวาดการ์ตูนญี่ปุ่น แคลมป์ ลงตีพิมพ์ในนิตยสาร ยังก์แมกกาซีน ของสำนักพิมพ์โคดันฉะ
    เมื่อราวๆ ปี พ.ศ. 2546 ส่วนในประเทศไทย ลงตีพิมพ์ในนิตยสาร เคซีทริโอ ของสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ 
ส่วนในสหรัฐอเมริกา ได้รับลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์ Del Rey Manga
   นอกจากหนังสือการ์ตูนแล้ว xxxโฮลิค ยังได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูน ในชื่อว่า  xxxHOLiC 
(คำอ่าน: เกคิโจบัง โฮลิค มานัทสึ โนะ โยะ โนะ ยูเมะ;ภาษาอังกฤษ: xxxHOLiC: A Midsummer Night's Dream)
เข้าฉายในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2548 ต่อมาได้ถูกสร้างเป็นอะนิเมะ ออกอากาศทางสถานี TBS

ตัวละครหลัก 


อิจิฮาระ ยูโกะ 

   หญิงสาวซึ่งได้รับฉายาว่า แม่มดแห่งมิติ เป็นผู้มีความสามารถในด้านของการทำนาย 
เธอเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคน วันหนึ่ง เธอได้พบกับ วาตานุกิ โดยพรหมลิขิต เธอจึงอยากช่วยวาตานุกิ 
โดยมีสิ่งแลกเปลี่ยนคือให้วาตานุกิ ทำงานพิเศษให้เธอ เธอมักจะชอบสิ่งของน่ารักๆ และสิ่งของโบราณ 
ชอบการดื่มเหล้า เบียร์ และสุราอื่นๆ ร้านของเธอคือร้านที่ช่วยให้ความปรารถนาเป็นจริงโดยต้องแลกด้วยสิ่งที่เท่าเทียมกัน 
    ผู้ที่ไม่มีความปรารถนาจะไม่สามารถมองเห็นร้านของเธอได้โดยจะมองเห็นเป็นเพียงที่รกร้างเท่านั้น 


วาตานุกิ คิมิฮิโระ

   เด็กหนุ่มชั้น ม.ปลาย ผู้มีความสามารถพิเศษคือ สามารถมองเห็นสิ่งลี้ลับได้ วันหนึ่งเผอิญผ่านไปหน้าร้านของยูโกะ ก็โดนสิ่งประหลาดชักจูงเข้าไปในร้าน จนทำให้เข้าได้พบกับยูโกะ ซึ่งยูโกะบอกกับเขาว่า
จะทำให้เขาสมปรารถนา แต่ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน โดยให้เขามาทำงานพิเศษ
    ชื่อของวาตานุกิ สามารถเขียนตัวคันจิได้ว่า วันที่ 1 เดือน 4 หรือ วันที่ 1 เมษายน  ซึ่งเป็นวันเกิดของเขา สายเลือดของเขาทำให้สิ่งลี้ลับชอบเข้ามาใกล้เป็นพิเศษ  ซึ่งเรื่องนี้สาวพิรุณบอกว่าพลังนี้ของวาตานุกิเป็นของหายาก 


โดเมกิ ชิซึกะ 

   เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นอีกคนหนึ่งของวาตานุกิเช่นเดียวกับฮิมาวาริ มีความสามารถทางด้านกีฬาค่อนข้างสูงและยังเนื้อหอมในหมู่ผู้หญิงอีกด้วย แม้จะมองไม่เห็นสิ่งลี้ลับ แต่ภายในเรื่องนั้นเขามักมีบทบาทในการช่วยวาตานุกิทำงานของยูโกะอยู่บ่อยครั้ง เพราะเขามีความสามารถในการไล่สิ่งลี้ลับนั่นเอง ในตอนที่ 117 วาตานูกิประสบอุบัติเหตุตกจากหน้าต่าง จึงทำให้โดเมกิได้เข้ามาทำงานในร้านของยูโกะ เนื่องจากมีความปรารถนาที่ต้องการช่วย วาตานุกิ เพราะเงื่อนไขข้องร้าน ต้องมีความปรารถถึงจะเข้าไปได้



คุโนงิ ฮิมาวาริ 

   เธอเป็นเพื่อนร่วมชั้น ซึ่งอยู่ห้องเดียวกับ วาตานุกิ มีนิสัยที่ชอบเรื่องลี้ลับ แม้วาตานุกิจะแอบชอบเธอก็ตามแต่ยูโกะ  กลับบอกว่า ฮิมาวารินั้น จะเป็น"ผู้นำโชคร้าย" มาสู่เขา ภายหลังได้รับนกที่มีความสามารถในการลบล้างพลัง ในการนำโชคร้ายของเธอจากวาตานุกิ จุดเด่นของเธอนั้น คือ การที่เธอไม่เคยทำอาหารเองแต่จะซื้อมามากกว่าและฮิมาวารินั้นดูเหมือนกันจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับวาตานุกิเลยสักนิด

   

โมโคนะ - โมโดกิ

   เป็นสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏอยู่ในผลงานเรื่องอื่นของ Clamp (เช่น สึบาสะ สงครามเทพข้ามมิติ และ เมจิกไนท์เรย์เอิร์ธ) สำหรับในเรื่อง xxxโฮลิค นี้ โมโคนะซึ่งถูกสร้างโดยยูโกะกับ โคลว รีด จะแบ่งออกเป็น 2 ตัวคือ Soel (ตัวสีขาว) และ Larg (ตัวสีดำ) โดยตัวที่จะปรากฏอยู่ในเนื้อเรื่องส่วนใหญ่นั้นคือ Larg ที่มีหน้าที่เชื่อมโยงติดต่อกับ Soel ซึ่งยูโกะได้มอบให้กับเชาหลัน ตัวเอกในเรื่อง สึบาสะ สงครามเทพข้ามมิติ ไปนั่นเอง 



โมโคนะ - โมโดกิ / มารุ และ โมโระ

    เด็กรับใช้ของ ยูโกะ ทั้งสองคน เหมือนเป็นคู่แฝด ที่มีท่าทาง และคำพูดคล้ายๆ กัน นอกจากนี้พวกเธอนั้นยังไม่มีวิญญาณซึ่งเปรียบเป็นได้เพียง "สิ่งของ" เท่านั้น ชื่อเต็มๆของพวกเธอคือ มารุดาชิ และ โมโระดาชิ แปลคร่าวๆ ได้ว่า โป๊ กับ เปลือย

   เรื่องนี้มีทั้งแบบมังงะและอนิเมะ ซึ่งประเทศไทยได้มี"การดอง"ไว้ 6 เล่ม ซึ่งที่ทั้งหมด 19 เล่มจบ ส่วนอนิเมะทำมี 2 ภาค และยังมีแบบ movie อีกด้วย เรื่องนี้ใครดูจะต้องหลงรักและชอบอย่างแน่นอน 

   จขบ.รับประกัน แต่ไม่รับผิดชอบนะ 555 ><    

*แก้ไขเพิ่มเติม หนังสือฉบับแปลไทย มี 12 เล่มและไม่มีการแปลต่อ และยังไม่ภาคคนแสดงด้วยน้า





The Diary

Diary F.14/09/2012

   วันนี้จขบ.ไม่มีอะไรจะพูดหรอก แค่มีเรื่องจะอวด ฮิฮิ

   จขบ.ซื้อวิกล่ะ จะเอาไว้คอสกับกลุ่มเพื่อนๆนะ ลองเอามาใส่ดู มันแบบว่า เหมือนทอมอ่ะ

   แต่ก็ยอมเพราะเราจะคอส ใส่แรกๆร้อนหัวมาเลยอ่ะ เหงื่อออกเยอะมาก T^T ไม่ชอบเลย

   ใช่ !! จขบ.ได้เบอร์เดิมคืนมาแล้วนะ >< ดีใจที่สุดแล้ว อิอิ แต่ก็นะ ต้องไปขอเบอร์เพื่อนใหม่เลยอ่ะ ญาติอีก เยอะเยะเลยล่ะ เหนื่อยเป็นที่สุด

   เรื่องแค่นี้เราต้องก้าวผ่านมันไปได้อยู่แล้วล่ะนะ เนอะ !!?

   กำแพงยิ่งสูงเท่าไรคนเรายิ่งต้องพยายามเพื่อข้ามกำแพงไปให้ได้ เพื่อก้วผ่านขีดจำกัดของชีวิต เอ๊ะ จขบ.นอกเรื่องไปสินะ กลับมาเรื่องเดิม ตอนนี้จขบ.ว่าเริ่มมีงานเข้ามาแล้วล่ะสิ แต่จขบ.สู้!!

   ว่าแต่ไม่รู่ใครจะอยากดูจขบ.ใส่วิกมั้งไหมนะ แต่ไม่แคร์อยากลง วิจารณ์ได้แต่ห้ามประณามนะ จขบ.จะเสียใจ มาดูกันดีกว่า

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ลงไปอีกนิดนะ เตือมใจดูนิดนึง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ดูเอาเองแล้วกันนะ

 


Ho Cartoon ~

Ho Cartoon
 
 
    งานโฮะเกิดจากการรวมตัวของชมรมการ์ตูนภายในภาคเหนือ โดยปัจจุบันมีชมรมในจังหวัดลำปางและจังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วม และอาจจะมีการเพิ่มจำนวนกลุ่มในการจัดงานครั้งต่อไป โดยในงานครั้งนี้มีชมรมเข้าร่วมทั้งสิ้น 3 ชมรม ได้แก่
- LC2 : Lampang cartoon club จังหวัดลำปาง
- CCL : Cosplay & Cartoon club lampang จังหวัดลำปาง
- TB : Triple baka จังหวัดเชียงใหม่
 
จุดประสงค์หลักในการจัดงาน
-เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของผู้ที่มีความชื่นชอบเกี่ยวกับการ์ตูน
-เป็นการประชาสัมพันธ์ และ สนับสนุน ชมรมที่เข้าร่วมในการจัดกิจกรรม
-ส่งเสริมให้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์โดยมุ่งเน้นกิจกรรมที่เป็นการสร้างเสริมด้านจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
-เพื่อเป็นการพัฒนาผลงานทีมีความเกี่ยวข้องกับการ์ตูนในรูปแบบต่างๆให้มีความก้าวหน้าและหลากหลาย
 
 
 



 
 
 
สามารถติดตามได้ ที่นี้ และทางfacebook

The Diary

Diary Tu.11/09/2012

   วันนี้จขบ.ขอดราม่า

   แค่เพียงวันเดียวเท่านั้น คนเราสามารถเผชิญสิ่งต่างๆได้อย่าง่ายดาย ทั้งเรื่องเสียใจ และเรื่องน่าดีใจเช่นกัน วันนี้จขบ. เจอเรื่องเศร้าที่น่าเสียใจมากๆเลยล่ะ

   แต่เพราะความเสียใจนี้แหละ มันทำให้จขบ.เจอเรื่องดีๆเหมือนกัน คนเราทุกคนไม่มีทางเหมือนกันเสมอ แล้วยิ่งอยู่กันเป็นกลุ่มคนที่มีสิทธิหรืออำนาจหรืออะไรก็แล้วแต่มากกว่าคนอื่น มักจะทำให้ใครสักคนในกลุ่มรู้สึกเสียใจ บางทีเขาอาจจะไม่รู้ตัว แต่กับใครสักคนที่ อยากจะทำอะไรตามใจตัวเอง เขาไม่รู้ตัวหรอก ว่าทำให้ใครสักคนรู้สึกดี

   ความคิดของจขบ.อาจจะแปลกไปสักหน่อย จขบ.คิดนะว่า ไม่ว่าเมื่อไรก็ตาม ไม่อยากได้เพื่อนมากมาย อยู่คนเดียวอาจสบายกว่า แค่อย่างน้อยยังมีใครสักคนที่ยังอยู่ข้างเราแม้สักคนหนึ่งก็ยังมี

   บางทีความเหงาคงไม่น่ากลัวเท่าความเสียใจ แต่ความเสียใจก็ทำให้เรารู้จักลุกขึ้นสู้กับสิ่งที่มันต้องขึ้นสักวันแน่นอน การเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาใส่ใจมากเกินไปมันมักจะทำร้ายตัวเองเสมอ

   แล้วสุดท้ายจขบ.ก็วาดรูปเล่นแก้เคลียด ไม่รู้เหมือนกันอารมณ์ไหน ไปดูกันเอาเอง

 
อย่าลืมคิดถึงความรู้สึกของตัวเองนะ ^^

Doujinshi ~

Doujinshi
 
    มาทำความเข้าใจกันก่อนเรื่องนี้ ค่อนข้างมีคนเข้าใจผิดเยอะอยู่เหมือนกัน
 
    โดจินชิ ดั้งเดิมหมายถึงแมกกาซีนหรือการ์ตูนที่จัดทำขึ้นโดยแฟนๆและนักเขียนการ์ตูนมือสมัครเล่น คำว่า โดจิน แปลว่ากลุ่มคนที่ชอบเรื่องเดียวกัน ส่วน ชิ หมายถึงแมกกาซีน แต่ระยะหลังคำนี้ใช้อธิบายกลุ่มคนหรือชิ้นงานที่สร้างขึ้นจากความคลั่งไคล้บางสิ่งบางอย่างไม่ว่าจะเป็นการ์ตูน, อนิเม, วิดีโอเกม, หรือแม้แต่โดจินชิเอง

    โดจินชิกับมังงะไม่เหมือนกัน มีความแตกต่างกันอยู่แล้ว

  - โดจิน (Doujin) คือ ผลงานที่ทำขึ้นมาล้อเลียนการ์ตูน เกมส์ ภาพยนต์ หรือดารานักร้อง หรือจะไม่ใช่การล้อเลียนแต่เป็นเรื่องที่คิดขึ้นมาเอง(ในที่นี้จะเรียกว่าผลงาน Original) ก็ได้ แต่ต้องทำโดยบุคคลที่ไม่สังกัดค่ายผู้สร้างการ์ตูนส์ จะทำเดี่ยว ๆ หรือทำเป็นกลุ่มใหญ่กี่คนก็ตามสะดวก ฉะนั้นเนื้อหาจะเป็นแนวใดก็ได้ทั้งนั้น(ไม่เกี่ยงว่าจะต้อง H หรือลามกเสมอไป แค่แบบ H มันมีออกมาให้โหลดเยอะกว่าล่ะมั้งคนเลยเข้าใจผิดว่ามัน H ไปซะหมด) เช่นเดียวกับการ์ตูนในสังกัดค่ายผู้สร้าง ทั้งนี้โดจินไม่ได้จำกัดอยู่แค่เป็นแบบหนังสือ เท่านั้นยังมี เป็น อนิเม ซึ่งเรียกว่าโดจินอนิเม และ ซอร์ฟเกมส์ ซึ่งเรียกว่าโดจินซอร์ฟ เป็นต้น
  -  มังงะ (Manga) แปลตรงตัวเป็นภาษาอังกฤษก็คือ Comics หรือแปลว่า หนังสือการ์ตูน ตามความหมายภาษาไทย (เรียกรวมหนังสือการ์ตูนทุกชาติทุกภาษา) ที่คนญี่ปุ่นไม่เรียกหนังสือการ์ตูนของเขาว่า comic เพื่อให้เกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่าง ซึ่งง่ายต่อการจดจำ และเรียกขาน ฉะนั้นหากแปลคำว่า มังงะ เป็นภาษาไทย ผมจะบอกว่าหมายถึง หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น

    โดจินชิโดยส่วนมากจะเขียนโดยแฟนๆ ของการ์ตูนที่ได้รับความนิยม โดยนำตัวละครจากการ์ตูนที่ชื่นชอบมาเขียนเรื่องราวเพิ่มเติมออกไปตามแต่จินตนาการของแฟนๆ นับเป็นการตอบสนองความต้องการของแฟนการ์ตูนในแบบหนึ่ง อย่างไรก็ดีโดจินชิก็สามารถเป็นเรื่องที่ผู้วาดแต่งขึ้นมาเองก็ได้

     ในความเข้าใจของ จขบ. โดจินชิ ก็คือหนังสือทำมือ หรือ หนังสือที่คนที่ชอบการ์ตูนหรืออื่นๆ นำโครงสร้างเรื่องเดิมของเนื้อเรื่องนั้นๆมาดัดแปลงตามจินตนาการ เพื่ออ่านเอง แบ่งคนอื่นอ่าน ขาย หรือทำสิ่งอื่นๆตามที่อยากทำ ซึ่งเนื้อหาอาจจะมีส่วยเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักไม่มากก็น้อยตามแต่จิตนาการของแต่ละบุคคล

   ถ้าหาในเน็ตก็คงจะประมาณนี้มั้ง ความเข้าใจของ จขบ.ล่ะนะ

 
 
 
   แต่อย่างไรก็ดี โดจินชิถึอว่าเป็นสิ่งเพลิดเผลิน ชนิดหึ่งอย่าไปหมกมุ่นกับมันมาก จนไม่เป็นอันทำอะไรก็แล้วกันบล่ะนะ

 

The Diary

Diary Su.09/09/2012

    วันนี้วันอาทิตย์ทั้งทีต้องไปร.ร.ซะงั้น แต่ว่านะ จขบ. "ไม่ได้ไป" = [  ] = 

    จขบ.ไม่สบาย ลุกไม่ขึ้นไม่ได้ไปร.ร. แล้วดันมีสอบชีวฯย่อยด้วย จขบ.จะตาย แงๆ เขาบอกว่าคนบ้าไม่สบายยากมากๆไม่ใช่เหรอ แล้วทำไหม จขบ.เป็นซะง่ายๆล่ะนั้น

    จขบ.ยอมรับ จขบ.เริ่มเป็นหวัดแล้ว ก็ช่วงนี้เดี๋ยวฝนก็ตก แดดก็ออก ให้ตายเถอะ ปรับตัวไม่ทันแล้วนะ

    อยู่บ้านเฉยๆก็กะไรอยู่ จขบ.เลยนั่งเคลียงานล่ะกัน

   ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องทำวันอาทิตย์เนอะ วันหยุดแท้ๆ บ้าจังเลยน้าาา

   อ๊ะ !! ลืมไปเลย จขบ.ทำโทรศัพท์หายอ่ะ T^T I'm sad เสียดายเมมโมรี่ กับพวงกุญแจที่เอาห้อยอ่ะ จขบ.ได้มา หาซื้อไม่ได้นะสิ ได้จากงานมีทติ้งทั้งที่ เสียดายมากๆเลย แล้วจขบ.ใช่เบอร์นี้มาตั้ง 4 ปี ไม่เคยเปลี่ยนเลยด้วย

   เฮ้อ ทำใจแต่ว่านะ สักพักคงได้เบอร์เดิมแล้วล่ะ บอก Call Center ไปแล้วล่ะ

   อ๊ากกกกกก ดราม่าอีกแล้ว จขบ.ไปดีกว่า ไปหาเรื่องจบดราม่ากัยเถอะ เนะ > w <



 
ภายในเรื่องเศร้าเสียใจ มันยังมีเรื่องดีๆอยู่เสมอนะ !!

The Diary

Diary  F.07/09/2012

   เย้ ดำเนินมาถึงวันศุกร์แล้ว นอนดึกได้แล้วววว > <

   จะบอกว่าตอนนี้ จขบ. ติด The Sixth Sense อ่า มันเป็นอะไรที่ชอบมากเลยล่ะ จขบ.นะ ไม่ได้ดูละครมาเกือบปีได้แล้วมั้ง จขบ.วามันน่าเบื่ออ่ะ

   อ๊ะ !! ความคิดเห็นส่วนตัวของจขบ.นะ อย่ามาว่าจขบ.ดูไม่ทุกเรื่องล่ะ จขบ.เลือกดู ชิๆ

   เพื่อนถามจขบ.ว่าอยากเป็นใครใน 5 คนนั้น จขบ.อยากเป็น"กรรัมภา"ล่ะ จขบ.ว่าการที่เราสามารถจับต้องอะไรแล้วเห็นสิ่งที่ไม่มีทางเห็นได้ อย่างอดีตของคนนั้น สิ่งนั้น หรือเรื่องราวที่มาที่ไปนั้นก็เหมือนกัน จขบ.ว่ามันก็ดีเหมือนกันนะ

   แต่ไม่มีใครมีความสุขหรือชอบเรื่องลี้ลับแบบนี้หรอกนะ หากว่ามันเกิดขึ้นกับตัวเองนะ มันคงเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากอยู่เหมือนกัน ที่เราเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น หรือสัมผัสในสิ่งที่ไม่มีใครรับรู้กับเราได้นั้นนะ

   จขบ.เป็นคนที่กลัวผีมากอยู่ เพราะงั้นเวลาดูเรื่องนี้ จขบ.จะไม่ดูคนเดียว ก็คนมันกลัวอ่ะ =3=
   นั้นสินะ คนเราความคิดไม่เหมือนกันหรอก ตอนนี้จขบ.ขี้เกียจซะแล้วล่ะ อิอิ

   วันนี้จขบ.ได้ตังมาเยอะเยะเลยล่ะ แต่เอามาใช้ไม่ได้ จี้กันตรงนี้แหละ เหอๆๆ ช่างมันเนอะ เรื่องเล็กน้อย >< 

   วันอาทิตย์ต้องไปเรียนอีกอ่า ร.ร.เขาหยุด แต่เราต้องเรียน เหนื่อยเลยนะเนี้ย

   วันนี้จขบ.ลาก่อนแล้วกัน ไปก่อนล่ะ บะบาย




                                                                                                       

Fiction ~

Fiction
 
    fic หรือ ฟิค ที่เราเรียกย่อๆกันมานั้น หากนำมาแปลจากภาษาอังกฤษ fiction จะหมายถึง บันเทิงคดี,เรื่องโกหก,หนังสืออ่านเล่นประมาณนี้
 
Fiction มี 2 แบบ
  - Original Fiction คือ ฟิคที่แต่งขึ้นมาเองโดยไม่ได้เอาเรื่องอื่นๆมาอ้างอิงหรือพูดถึง ทั้งเนื้อหา แก่นเรื่องและตัวละครล้วนแต่งขึ้นมาเองทั้งนั้น
  - Fan Fiction คือ ฟิคที่แต่งขึ้นมาโดยอ้างอิงหรือพูดถึงงานหรือสิ่งที่มีอยู่แล้ว ดูตามลักษณะแล้วฟิคนี้จะแต่งง่ายกว่า Ori Fictionเพราะมีข้อมูลของสิ่งที่พูดถึงอยู่แล้ว
 
    Fiction กับ Novel มีความแตกต่างกันพอสมควร ซึ่งหากแปลตรงตัวแล้ว fic จะหมายถึงเรื่องแต่งขึ้นมาตามจินตนาการนั้นเอง ส่วน novel หมายถึงนิยายที่ได้ถูกเขียนขึ้น ซึ่งมีความคล้ายคลีงกันพอสมควร (ในความคิดของ จขบ. นะ ) 
 
   ซึ่งฟิคได้มีการแบ่งแยกเรทหรือการแบ่งประเภทผู้อ่านดังนี้
การแบ่งแยกเรทของฟิค
G          >>   เหมาะสำหรับทุกวัย
PG        >>   ผู้ปกครองควรพิจารณา
PG-13   >>   ผู้ปกครองควรพิจารณา ไม่เหมาะสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 13
R           >>   ผู้ปกครองควรพิจารณา เนื้อหารุนแรง สำหรับเด็กโต(วัยรุ่น)
NC-17   >>  เนื้อหาและฉากรุนแรงมาก ห้ามเด็กอายุต่ำว่า 17 (เลขที่ต่อท้ายNCจะมีเพิ่มขึ้นตามเนื้อหาที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นด้วย)
 
   fic ค่อนข้างหาอ่านได้ง่ายในอินเทอร์เน็ต แต่เราควรจะดูเรทการอ่านก่อนที่จะอ่านเนื้อหา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง ผู้เขียนเองก็เช่นกัน ควรเขียนเรทติดหัวชื่อเพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบด้วย
 
ปล.ถ้าจขบ.ว่างๆหรืออารมณ์แบบไหนไม่อาจทราบ จขบ.จะเอาฟิคของจขบ.มาลงล่ะกันนะ วันนี้ไปก่อนล่ะ บายๆ จุ๊บๆ

The Diary

Diary M.03/09/2012
  
   วันนี้เป็นวันที่ทุกคนไม่อยากลุกจากที่นอน เหมือนจขบ.สินะ วันจันทร์นี้แหละนะ แต่ก็ต้องลุกล่ะนะ
 
   วันนี้จขบ.ก็ต้องไปร.ร.ดังเช่นทุกวัน เรียนเหมือนปกติ แต่จขบ.งานค้างเยอะไปไหมเนี้ย เครียดเลย เหนื่อยตรงที่ต้องทำงานนี้แหละนะ

   ก็ไม่รู้ว่าทำไมเวลาเรียนไม่ค่อยสนใจ แต่เข้าใจเนอะ แปลกดีเหมือนกัน วันจันทร์แบบนี้ก็ยังเป็นวันเริ่มต้นอะไรหลายๆอย่างที่ดีกับตัวเองได้ด้วย

   จขบ.มีของจะอวดด้วยล่ะ จำDiary วันก่อนได้ไหมที่ จขบ.จะทำอีกตัวนะ จขบ.ทำแล้วนะ แต่ยังไม่ให้ดูหรอก เล่าอะไรให้ฟังก่อน ตามอ่านข้างล่างนะ
 
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
 
ก็แค่จะบอกว่า
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
 
ไม่มีเรื่องเล่าแล้วล่ะ ><
 
ดูกันดีกว่า อีกตัวหนึ่งกันเถอะ
 
 
อุกิ้วๆ จขบ.ชอบคู่นี้ อิอิ >///<
 


Otaku ~

Otaku
 
   โอตาคุ หรือ โอทาคุ มีความหมายมาจากภาษาญี่ปุ่น  เป็นคำเรียกบุคคลอีกประเภทที่มีความสนใจในสิ่งที่ตนชอบอย่างเกินปกติ และมีความสามารถในการเข้าสังคมไม่สูง เดิมทีนั้น โอตาคุ มีความหมายว่า "บ้านของคุณ" ต่อมาก็ถูกนำมาเรียกใช้กับแฟนคลับอะนิเมะ มังงะ แต่ความหมายที่แท้จริงญี่ปุ่นใช้ในเชิงดูถูกและรังเกียจ จนมีคำเปรียบเทีบยของโอตาคุ แบบนี้
 
O -obnoxious     สันดานแย่ ไม่น่าคบ
T -tuacky           ซกมก
A -aggravate      น่ารำคาญ
K -klutz             สมองกลวง
U -ugly              อุบาทว์
 
   โอตาคุ เป็นคนที่มีลักษณะที่คลั่งไคล้หลงใหลในเรื่องต่างๆ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นการ์ตูนอย่างเดียว เช่น หนัง ดารา เกมส์ ฯลฯ  แต่คำว่าโอตาคุในไทยนั้นมีความหมายว่า พวกที่คลั่งไคล้ การ์ตูน อนิเมฯ เกมส์ พวกนี้ ส่วนใหญ่จะถูกมองจากสายตาของบุคคลทั่วๆไป ว่ามันไร้สาระ ใช้เงินฟุ่มเฟือยกับของที่เกี่ยวกับพวกนี้ในราคาแพงๆ แต่ว่า โอตาคุ ก็ไม่ใช่คนไม่ดีนะ เพียงแค่ว่าคนกลุ่มนี้ค้อนข้างมีโลกเป็นของตัวเอง ค่อนข้างมาก ทำให้บางครั้งทำให้เข้ากับบุคคลหรือสังคมอื่นได้ยาก
 
 
สายพลัง & ลัทธิ
Lolicon พวกคนที่รักเด็กผู้หญิง อยู่สายนี้นานๆอาจมีคุก
Shotacon พวกคนที่รักเด็กผู้ชาย อยู่สายนี้นานๆอาจมีคุกเช่นกัน
Obacon พวกที่รักผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าตัวเองจนอาจถึงแก่ไปเลย
Ojicon พวกที่รักผู้ชายมีอายุมากกว่าตัวเองหรืออาจมากกว่าจนเลยก็ได้
Shonen ai ความรักบริสุทธิ์ระหว่างชายกะชาย [ไม่ติดเรท]
Yaoi กลุ่มสงวนพันธ์ป่าไม้ ง่ายๆชอบพวกชอบเพศเดียกันชาย [Seme Y สายรุก][Uke Y สายรับ] [ Y สายรับ]
Yuri สมาคมอนุรักษ์ดนตรีไทย ง่ายๆชอบพวกชอบผู้หญิงหญิงเพศเดียกัน [Seme Y สายรุก][Uke Y สายรับ]
GuRo พวกที่ชอบการชำแหละ เลือด ฆ่า เครื่องใน ไส้
Ecchi ลามกเล็กๆ ทะลึ่งหน่อยๆ
Hentai หนักกว่า Ecchi ขนาดที่ คุก กวักมือเรียก เอาง่ายๆ วิตถาร น่ะ
SM Sadism&Masokism กลุ่มคนที่นิยมใช้ โซ่ เทียน แส้ กุญแจมือ
Maho กลุ่มคนที่ชอบสาวน้อยเวทมนต์
Maid กลุ่มคนที่ชอบชุดสาวใช้ สาวเสริฟ
Miko กลุ่มอนุรักษ์นิยมที่ชอบสตรีในชุดขาวแดง [มิโกะ เป็น ผู้รับใช้พระเจ้าเป็นผู้หญิงที่ทำหน้าที่ดูแลศาลเจ้า]
Megane สมาคมที่มีอยู่เพิ่มไม่ให้ แว่นตา หายไปจากโลกนี้ [พวกชอบหนุ่มสาวที่ใส่แว่น]
Kemono คนที่ชอบ พวกครึ่งคนครึ่งสัตว์ หรือ สัตว์ที่มีลักษณะคล้ายคนมากกว่าสัตว์ ยืนได้ พูดได้เป็นต้น
Mimi พวกคลั่งหู จะรวมๆใน พวกหูแมว หมา กาไก่
Nekomimi กลุ่มคนที่คลั่งไคล้ หูแมว และหางแมว
Inumimi ครายๆกับ Nekomimi แต่จะเป็น หูหมาหางหมาแทน
Kinniku พวกที่ชอบจนถึงคลั่งไคล้ในมนุยษ์จำพวกที่มีกล้ามใหญ่ๆ
Incent รักต้องห้าม [พ่อลูก แม่ลูก พี่น้อง]
Siscon พวกบ้าพี่สายน้องสาว
Bracon  พวกบ้าพี่ชายน้องชาย
 
 


 
 
   โอตาคุ ก็ไม่ใช่คนไม่ดีอะไรหรอก มันขึ้นอยู่กับว่าเรามองอย่างไรต่างหาก  แต่ที่จริงแล้ว เราไม่ควรใช้คำว่าโอตาคุเพราะเป็นคำที่มีความหมายค่อนข้งไม่ดีเท่าไร หากจะใช้ น่าจะใช่คำว่าแฟนพันธุ์มากกว่า
 
   อย่าลืมล่ะ โอตาคุเป็นเป็นคนประเภทหนึ่งที่มีในสังคม อย่านำไปคิดมากหรือนำไปสร้างปัญหาที่อาจก่อให้เกิดแก่ตนเอง คนรอบข้าง หรือคนที่เราไม่รู้จักอีกเลย จขบ.ขอ (เคยโดนมาบ้างแล้ว)



Cosplay ~

Cosplay 

   Cosplay มาจากคำว่า  Costume ที่แปลว่า การแต่งตัว กับ Play ที่แปลว่าเล่น เมื่อนำมารวมกันก็มาถึง การเล่นกับเสื้อผ้านั้นเอง ซึ่งเป็นศัพท์เฉพาะที่ไม่มีการบัญญัติในภาษาอังกฤษนั้น ทั้งนี้ ก็มีอีกนิยามว่า Cosplay มาจาก Costume+Roleplay ซึ่งคำว่า Roleplay นี้แปลว่า สวมบทบาท ซึ่งก็จะทำให้นิยามความหมายได้ชัดกว่าคือ "การแต่งกายสวมบทบาท" แต่นิยามให้ชัดเจนที่สุดคือ "การแต่งตัวเลียนแบบ"

   เรามักจะเรียกคนแต่งตัวเช่นนี้ว่า เลเยอร์ มาจากคำหลังของคำว่า cosplayer เรียกเหลือแค่ layer สิ่งที่สำคัญที่สุดของเลเยอร์ไม่ใช่การแต่งกายที่เหมือน แต่เป็นการเลียนแบบตัวละครนั้นๆให้เหมือน เพื่อเป็นการให้เกียรติต่อตัวละครหรือต้นแบบที่เราแต่งเลียนแบบด้วย

   สำหรับในไทยนั้น ที่นิยมมากที่สุด เช่น

- คอสเพลย์การ์ตูน












- คอสเพลย์เกม













- คอสเพลย์ J-Rock












- คอสเพลย์ตามศิลปิน













- คอสเพลย์ตามตัวละครซุปเปอร์ฮี่โร่















- คอสเพลย์ตามนิยาย










- คอสเพลย์ตามภาพยนตร์หรือละคร
 
 
   cosplay ได้เข้ามาสู่ประเทศไทยเมื่อ 2525 ซึ่งงานดังกล่าวได้ไม่ได้มีความหมายโดยตรงกับงานคอสเพลย์ แต่เป็น"งานมหกรรมช่อง 9 การ์ตูน ส่งท้ายปี 2525 รับปีใหม่ปี 2526" ซึ่งมีการเปิดประกวดแต่งกายตัวการ์ตูน โดยมีเด็กๆได้เข้าประกวดเป็นจำนวนมาก
 
  ต่อมาได้ขยายได้รวมถึงการแต่งตัวตาม J-Rock และ การแต่งตัวตามเกม จากการจัดงานนี้ ทำให้มีการขยายตัวมากขึ้น จนมีการจัดงานคอสเพลย์ในกรุงเทพฯ จนมาถึงต่างจังหวัด  โดยงานแรกๆนั้นเป็นงานการ์ตูนของทาง ชมรมการ์ตูนเชียงใหม่ ซึ่งได้จัดงาน เชียงใหม่การ์ตูนและอนิเมชั่น ซึ่งงานที่คอสเพลย์เริ่มมีบทบาทในงานอย่างชัดเจน  
 
   ปัจจุบันได้มีความสากลมากขึ้น ถึงแม้ในประเทศไทยจะมีเป็นบางกลุ่มที่รู้จักและยอมรับ แต่ก็ยังถือว่าีคนรู้จักและร่วมมากขึ้น ปัจจุบันมีการแข่งขัน World Cosplay Summit  ที่มีการนำเลเยอร์ของแต่ละประเทศไปแข่งขันการแสดงคอสเพลย์นั้นๆด้วย ซึ่งได้จัด World Cosplay Summit  ในปี 2003 และประเทศไทยได้ร่วมลงแข่งขันในปี 2006 จนปัจจุบัน มีประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขัน 20 ประเทศ(วัดในปี 2012) และประเทศไทยเคยได้รับรางวัลจาก World Cosplay Summit  ในปี 2010 โดยเลยเยอร์ Alexis Seiz และ Por คือได้รางวัลที่ 2 และ เป็นรางวัลพิเศษจาก Brother
 

 

                                               Por                                                      Seiz


   แต่อย่างไรก็ตามคอสเพลย์ยังเป็นที่นิยมของคนบางกลุ่มเท่านั้น หากใครไม่ชอบหรือไม่เห็นด้วย ไม่ควรเอาไปประนาม ต่อว่า หรือว่าร้าย เพราะคอสเพลย์ไม่ได้ทำร้ายหรือทำลายใคร คอสเพลย์ถือเป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่งได้ด้วย

   ในวงการคอสเพลย์นั้นมีคนหลายรูปแบบดังนั้น ตัวเลยเยอร์เอง ตากล้อง หรือบุคคลอื่นๆ ก็เป็นคนเหมือนกันทั้งนั้น อย่าได้ทำในสิ่งที่ทำให้มันดูย่ำแย่ หรือสร้างปัญหาให้แก่กันเลย เพราะอย่างไรก็ดี วงการคอสเพลย์ยังต้องการเลยเยอร์ดีๆ ตากล้องดีๆ และผู้ช่วยเหลือส่งเสริมเลเยอร์เช่นกัน

อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี้ ♨

วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2555

Game ~

Game

   เกม เป็นสิ่งที่เราได้ยินกันมาและคิดว่าทุกคนคงเคยได้เล่นตั้งแต่จำความได้กันแล้ว เกมป็นลักษณะของกิจกรรมของมนุษย์เพื่อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น เพื่อความสนุกสนานบันเทิง เพื่อฝึกทักษะ และเพื่อการเรียนรู้ เป็นต้น และในบางครั้งอาจใช้เพื่อประโยชน์ทางการศึกษาได้

   เกมประกอบด้วยเป้าหมาย กฎเกณฑ์ การแข่งขันและปฏิสัมพันธ์ เกมมักจะเป็นการแข่งขันทางจิตใจหรือด้านร่างกาย หรือทั้งสองอย่างรวมกัน ซึ่งส่งผลให้เกิดพัฒนาการของทักษะ ใช้เป็นรูปแบบของการออกกำลังกาย หรือการศึกษา บทบาทสมมุติและจิตศาสตร์ เป็นต้น

ประเภทเนื้อหาของเกม
1.เกมเบื้องต้น  (Preliminary game)  เป็นเกมที่ไม่มีระเบียบแบบแผน สร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น
2.เกมที่สร้างขึ้น (Structured game) เป็นเกมที่สร้างขึ้นอย่างมีจุดหมายเป็นไปตามแนวคิดรวบยอดให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่ต้องการ เกมลักษณะนี้ คือเกมที่สร้างให้ผู้เล่นเกิดความเข้าใจตามจุดมุ่งหมายของเกม เมื่อเล่นเกมมากขึ้นก็จะเข้าใจยิ่งขึ้น
3.เกมฝึกหัด (Practice Game)  เป็นเกมที่เน้นความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาในการเรียนรู้
4.เกมพัฒนาการ (Developmental game)  เป็นเกมที่ส่งเสริมให้ผู้เล่นได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
5.เกมยุทธวิธี (Strategy game)  เป็นเกมที่ผู้เล่นคิดหาแนวทางเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์นั้นๆโดยเฉพาะ
6.เกมเสริมแรง  (Reinforcement game)  เป็นเกมที่ช่วยให้ผู้เล่นได้เรียนรู้พื้นฐานต่างๆและฝึกทักษะเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ

ประเภทของเกม 

-เกมกีฬา 










-เกมการละเล่น









-เกมกระดาน



-เกมพนัน









-เกมไพ่










-เกมการ์ด








-เกมบุ๊ค หรือเกมหนังสือ 











-เกมอิเล็กทรอนิกส์
   เกมเครื่องพื้นฐาน -  X-BOX


  







   เกมเครื่องพกพา - PSP

  







   เกมคอมพิวเตอร์ - PC

  







   เกมตู้ - เกมหยอกเหรียญ










   ในปัจจุบันเกมกับการ์ตูนหรืออะนิเมะมีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกันแล้ว หลายๆคนคงเคยได้ยินมาบ้าง กับเกมต่อสู้ เกมจีบสาว เกมจีบหนุ่ม รวมทั้งเกมยาโออิ ที่ญี่ปุ่นได้นำเนื้อเรื่องจากเกมมาสร้างเป็นอะนิเมะหลายเรื่อง อาทิ 
Tokimeki Memoral

Uta no Prince-sama ~ Maji Love 1000%


Togainu no Chi


   เกมมีไว้เพื่อผ่อนคลายจากความเครียดและเพื่อสร้างความสนุก อย่าใส่ใจกับมันมากจนไปเกินไป แล้วอย่าหลงไหลกับมันมาก เดียวมันจะไม่ใช่เพื่อความสนุกนะ 

  อย่าเล่นจนไม่ทำการทำงาน การบ้านไม่ทำนะ เล่นได้แต่อย่าติดจนกลายเป็นสิ่งเสพติด มันจะเกิดผลเสียกับเราเอง จขบ.นานๆจะเล่นเลย // เล่นไม่นานอยู่แล้ว  


The Diary

Diary Sa.01/09/2012

   วันเสาร์ทั้งที จขบ. ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปเรียนซะงั้น อ่านไม่ผิดหรอก ไปเรียน พอดีช่วงนี้มีกิจกรรมเยอะมาก ทำให้หยุดเรียนไปหลายวัน จึงเกิดวันเรียนทดแทนขึ้นมา นั้นก็คือวันเสาร์นี้เอง 

   แต่มันช่วยไม่ได้นินะ โรงเรียนก็ทำเพราะพวกเรานี้แหละ เรียนไม่ทัน เรียนไม่เข้าใจ ก็ว่ากันไปตามแต่เรื่องของนักเรียนล่ะนะ 

   ช่วงนี้ก็ใกล้ปิดเทอมแล้ว นั้นก็หมายถึงสอบมิดเทอม โอ้ นี้แหละปัญหาใหญ่ของจขบ. คะแนนหดหายอย่างแน่นอน แต่หาได้เคลียดไม่ ค่อยเรียนค่อยอ่านไปแล้วกัน ซีเรียดมากไปใช่ว่าจะดี แทนที่จะดีมันจะทำไม่ได้ซะมากกว่าเอานะสิ 

   วันนี้ก็เหมือนทุกวันนั่งเรียนไปเถอะ แต่ไม่รู้ทำไม ใกล้ปิดเทอมงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆก็ไำม่ทราบ ปั่นงานส่งแทบไม่ทันอยู่แล้ว แทมสอบย่อยเยอะด้วย การบ้านเยอะจนบางวันไม่มีเวลาอ่านหนังสือเลยก็ว่าได้ แต่ก็ยังหาเวลาว่างมานั่งเล่นคอม เอิ่ม อันนี้ก็ไม่เข้าใจทำได้ไงกันนะ จขบ.ก็เป็น รู้ด้วยคนอ่านก็เป็นเหมือนกันล่ะสิ 

   วันนี้นั่งเรียนไปนั่งเรียนมา เบื่อหน่ายก่ายเซ็ง หันไปหาเพื่อนในห้อง ต้องพบกับเพื่อนมันนอนฟุบกันเต็มเลย = [ ] ="  

   เบื่อไม่ว่าอะไรหรอกนะ แต่เล่นนอนกันเป็นปรืดขนาดนี้ไม่กลัวครูมั้งกันหรือไงนะ แต่ก็พอเข้าใจละนะ มันเป็นวิชาไม่ค่อยสำคัญเท่าไร ครูก็ไม่ได้ว่าอะไร เห็นคนอื่นนอนกัน เราเอามั้ง 

   อ๊ะๆๆ คิดว่าจขบ.จะนอนล่ะสิ No no no จขบ.ทำอย่างอื่นดีกว่า มันนอนไม่หลับนิเฮ้ย ทำไงได้ จขบ.เลยนั่งวาดรูปแล้วผลที่ได้ก็ประการละฉะนี้ รูปข้างล่างนั้นแหละ 



   วาดจริงๆจังๆจนได้เต็มกระดาษแบบนี้ก็ครั้งแรกนี้แหละ ที่มีหน้ากากอนามัยคงคิดว่าจขบ.วาดปากไม่เป็นใช่ไหมล่ะ แล้วก็คิดถูกแล้วล่ะ ก็จขบ.วาดไม่เป็นจริงๆอ่ะ ให้ทำไงเล่า -3- ได้แค่นี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ร่างกายยังไม่สมส่วนเลย งานเผาเล็กน้อยนะ 

   แต่เพราะมีแต่คนนอนนี้แหละ ได้การบ้านเลยทีนี้ เอิ่ม ทำใจลูกเดียว ยังไงก็ต้องทำล่ะนะ

   ใกล้สอบแล้วอ่านหนังสือเผื่อจขบ.บ้างนะ ล้อเล่นๆ อ่านเพื่อตัวเองนั้นแหละ อ่านด้วยแล้วกันนะ จะได้ทำข้อสอบได้ง่ายๆเลย 

Anime ~

Anime

   Anime หรือ Animation คือ ภาพเคลื่อนไหวที่เกิดจากการนำภาพมาร้อยเรียงต่อกันอย่างสวยงาม หรืออาจจะเป็นการทำให้ตัวการ์ตูนสามารถมีชีวิตเคลื่อนไหวได้ดังเช่นภาพยนตร์ที่มีคนแสดง 

   คำว่า "อะนิเมะ" มีขอบเขตกว้างครอบคลุมภาพยนตร์การ์ตูนทั้งหมด ไม่จำกัดอยู่ที่แนวหรือรูปแบบของภาพยนตร์การ์ตูนใดๆ

   เราอาจกล่าวได้ว่าลักษณะเฉพาะตัวของอะนิเมะคือการใช้ลายเส้นที่คม และสีสันที่สดใส มาประกอบเป็นตัวละครที่มีรายละเอียดสูง ลักษณะเด่นอีกประการหนึ่งของอะนิเมะคือความหลากหลายของแนวเรื่องและกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่


   อะนิเมะมีอยู่หลายแนวเช่นเดียวกับภาพยนตร์มังะ  ยกตัวอย่างเช่น แอคชัน, ผจญภัย, เรื่องสำหรับเด็ก, ตลก, โศกนาฏกรรม, อีโรติก , แฟนตาซี, สยองขวัญ, ฮาเรม ,โรแมนติก, และนิยายวิทยาศาสตร์

   อะนิเมะส่วนใหญ่จะมีเนื้อหาจากหามากกว่าหนึ่งแนว ทำให้การจัดแบ่งอะนิเมะเป็นไปได้ยาก เป็นเรื่องปกติที่อะนิเมะแนวแอคชันส่วนใหญ่จะสอดแทรกด้วยเนื้อหาแนวตลก รักโรแมนติก และอาจมีการวิพากษ์วิจารณ์สังคมปนอยู่ด้วย ในทำนองเดียวกันอะนิเมะแนวรักโรแมนติกหลายเรื่องก็มีฉากต่อสู้ที่ดุเดือดไม่แพ้อะนิเมะแนวแอคชันเลย


แนวที่สามารถพบได้แค่ในอะนิเมะและมังงะได้แก่
- บิโชโจะ: (ภาษาญีปุ่นหมายความว่า "เด็กสาวหน้าตาดี") อะนิเมะที่มีตัวละครหลักเป็นเด็กสาวหน้าตาสวยงาม
- บิโชเน็น: (ภาษาญี่ปุ่นหมายความว่า "เด็กหนุ่มหน้าตาดี") อะนิเมะที่มีตัวละครหลักเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาและท่าทางสง่างาม
- เอดชิ: มีรากมาจากตัวอักษร "H" ในภาษาญี่ปุ่นหมายว่า "ทะลึ่ง" อะนิเมะในแนวนี้จะมีมุขตลกทะลึ่งแบบผู้ใหญ่ และมีภาพวาบหวามแต่ไม่เข้าข่ายอนาจารเป็นจุดขาย
- เมะกะ: อะนิเมะที่มีหุ่นยนต์ยักษ์
อะนิเมะสำหรับเด็ก: มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กปฐมวัย
- โชเน็น: อะนิเมะที่มีกลุ้มเป้าหมายเป็นเด็กผู้ชาย
- โชโจะ: อะนิเมะที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กผู้หญิง
- เซเน็น: อะนิเมะที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่นชายตอนปลายถึงผู้ชายอายุประมาณ 20 ปี
- โจะเซ: (ภาษาญี่ปุ่นหมายถึง "ผู้หญิงอายุน้อย") อะนิเมะที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 20 ปี
- มาโฮะโชโจ: แนวย่อยหนึ่งของอะนิเมะแนวโชโจะ มีตัวละครหลักเป็นเด็กผู้หญิงที่มีพลังวิเศษอย่างได้อย่างหนึ่ง
- มาโฮะโชเน็น: เหมือนแนวสาวน้อยเวทมนตร์ แต่ตัวเอกเป็นผู้ชาย
- โชโจะไอ/ยุริ: อะนิเมะเน้นความรักร่วมเพศระหว่างผู้หญิง
-โชเน็นไอ/ยะโอะอิ: อะนิเมะเน้นความรักร่วมเพศระหว่างผู้ชาย
- เฮ็นไต: (ภาษาญี่ปุ่นหมายความว่า "ไม่ปกติ ในแง่จิตใจ" หรือ "วิตถาร") เป็นคำที่ใช้นอกประเทศญี่ปุ่นสำหรับเรียกอะนิเมะที่จัดได้ว่าเป็นสื่อลามกอนาจาร

** กลุ่มเซนไตหรือขบวนการเรนเจอร์ (5 สี) ไม่ได้รวมในหมวดนี้ด้วย // จขบ.คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น

    อะนิเมะที่เราดูกันมาตั้งแต่เด็กจนตอนนี้ได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบันได้พัมนามากขึ้น จากเมื่อก่อนจะดัดแปลงจากมังงะเป็นอะนิเมะ ปัจจุบันได้สร้างอะนิเมะก่อนจึงแปลงเป็นมังงะกันให้เราได้อ่านด้วยเช่นกัน

  อะนิเมะบางส่วนที่ได้รับความนิยมทั้งในอดีตและปัจจุบัน














   แต่อย่าลืมล่ะ มันยังคงเป็นแค่เพียงการ์ตูน อย่าเอาไปคิดเป็นจริงเป็นจังมากเกินไป จนเกิดผลเสียต่อตัวเอง อะนิเมะทุกเรื่องสอดแทรกความรู้และข้อคิดมากมาย แต่เราจะสามารถรับรู้และเข้าใจได้ไหมนั้น ขึ้นอยู่กับมุมมองของตัวเราเองนะ แล้วอย่าดูจนลืมทำการบ้านแบบจขบ.ล่ะ ฮะฮาฮ่า 

วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555

Manga ~

Manga

   ทุกคนคงเคยอ่านหนังสือการ์ตูนเป็นเล่มๆใช่ไหม แล้วรู้หรือเปล่า ว่าเขาเรียกกันว่า มังงะ คำว่า มังงะ แปลตรงตัวว่า "ภาพหยาบ" และเป็นคำภาษาญี่ปุ่นสำหรับเรียกการ์ตูนช่อง สำหรับภายนอกประเทศญี่ปุ่น คำนี้ถูกใช้เรียกการ์ตูนช่องที่มาจากญี่ปุ่น

   มังงะที่ได้รับความนิยมสูงมักถูกนำไปสร้างเป็น"อนิเมะ" เนื้อหาของมังงะเหล่านั้นมักถูกดัดแปลงเพื่อให้เหมาะสมต่อการแพร่ภาพทางโทรทัศน์และเพื่อให้ถูกรสนิยมของผู้ชมทั่วไปมากขึ้น
   
   สำหรับจขบ.แล้ว มังงะ ได้ถูกพัฒนาจากการ์ตูน มาอย่างแน่แท้ ซึ่งหลายๆคนคงเคยอ่านมังงะกันมาบ้าง คงเคยอ่านการ์ตูน 4 ช่องมาบ้างแล้ว มังงะมีจุดเริ่มตันมานานแล้ว แต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีความสำคัญอย่างมาก เมื่ออาจารย์ฮิซึกะ โอซามุ ได้พัฒนามังงะ และการ์ตูนญี่ปุ่น จนได้ชื่อว่าเป็น บิดาแห่ง การ์ตูนญี่ปุ่น จนปัจจุบันมังงะได้มีการพัฒนามากขึ้น

   แล้วรู้ไหม ว่า manga และ comic มีส่วนคล้าย ใกล้เคียง หรือ แตกต่างกันอย่างไร ??
ทั้ง 2 อย่างนั้นมีที่แตกต่างกันคือ การอ่านจากซ้ายไปขวา และขวาไปซ้าย การใช้ภาษา การใช้ช่ิองดำเนินเรื่อง การเคลื่อนไหวของตัวละคร อะไรประมาณนี้ แต่ที่คล้ายกันนั้นเป็นเพราะจริงๆแล้วมังงะก็คือคอมมิคนี้แหละ แต่เพียงว่ามังงะ จะเอาไว้ใช้เรียก การ์ตูนของญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์มานานแล้วนั้นเอง คอมมิคเป็นการ์ตูนเช่นกัน แต่อาจจะเรียกได้หลายๆประเทศ  ประเทศไทยก็มีของตัวเอง เราจะเรียกกันว่า ThaiComic  

มังงะ มีประเภทแตกออกไปอีก ซึ่งมีการเรียงหลายแบบ
เรียงตามกลุ่มเป้าหมาย
- เด็ก
- โชเน็น (เด็กวัยรุ่นชาย)
- โชโจะ (เด็กวัยรุ่นหญิง)
- โจะเซ หรือ เรดิโคมิ (ผู้หญิง)
- เซเน็น (ผู้ชาย)

เรียงตามเนื้อหา
- ผจญภัย -เนื้อเรื่องมีการเดินไปยังยังสถานที่ใหม่ๆเสมอ
- ต่อสู้ -เนื้อเรื่องของการต่อสู้ การแข่งขั น หรือเอาชีวิตรอด
- กีฬา - เนื้อเรื่องเน้นเกี่ยวกับการแข่งขันของกีฬาทั้งหมด
- โรแมนติก - เนื้อเรื่องเน้นไปทางความรักของชาย-หญิง และอาจจะรวมถึงความรักของเพื่อนด้วย
- ฮาเร็ม - เนื่อเรื่องความรักของชาย-หญิง ที่มีเพศตรงข้ามตัวละครหลักมากกว่า 3 คน ขึ้นไป
- ดราม่า - เนื้อหาแฟงไปด้วยความศร้าสลดและสะเทือนใจ
- ตลก - เนื้อเรื่องส่วนใหญ่จะมีความตลกจากมุขและฉาก
- ไซไฟ - เนื้อเรื่องมีเทคโนโลยีล้ำหน้า ทันสมัยเกินจิตนาการ
- สงคราม - เนื้อเรื่องเกี่ยวกับสงครามหรืออาจอยู่ในภาวะสงครามนั้นๆ
- แฟนตาซี - เนื้อรื่องที่เกี่ยวข้องกับเวทมนต์ เทพ พ่อมด คาถา โดยไม่ได้ดำเนินในโลกแห่งความเป็นจริง
- เหนือธรรมชาติ - เนื้อเรื่องหลักเดียวกันกับแฟนตาซีแต่ดำเนินในความเป็นจริงและมีโครงเรื่องมาจาก---- ประวัติศาสตร์ ตำนาน มีหลักฐาน
- ปริศนา - เนื้อเรื่องมีปริศนาซ่อนเงื่อนมากมาย ต้องให้คิดหลายๆแบบ ซึ่งอาจจะดำเนินไม่เป็นไปที่เราคิด
- สอบสวน- เนื้อเรื่องเกี่ยวข้องการสืบสวนหาที่มาของคดีหรือเหตุการณ์ต่างๆ
- การ์ตูนเพื่อการศึกษา - เนื้อเรื่องเป็นไปเพื่อให้ความรู้
- การ์ตูนยาโออิ หรือ โชเน็งไอ - เนื้อเรื่องมีความรักของชายรักชายอย่างชัดเจน

เรียงตามรสนิยม
- ออริ เน้นความรักและความสัมพันะ์ระหว่างชายกับหญิง
- โชเน็นไอ เน้นความรักระหว่างชายกับชาย
- ยาโออิ หรือ ยาโอย เน้นความสัมพันธ์ระหว่างชายกับชาย
- โชโจไอ เน้นความรักระหว่างหญิงกับหญิง
- ยูริ เน้นความสัมพันธ์ระหว่างหญิงกับหญิง
- โลลิค่อน เน้นเรื่องความรักและสัมพันธ์กับเด็กผู้หญิงอายุ 10-12 ปี
- โชตะค่อน เน้นเรื่องความรักและความสัมพันธ์กับเด็กผู้ชายอายุ 10-12 ปี

มังงะที่เราคงเคยเห็นกันมาก่อนแล้ว



 

   รู้ไหมที่ประเทศญี่ปุ่นมีปริญญามังงะและอนิเมะด้วยนะ เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากด้วย

   จากที่จขบ.กล่าวมานั้นมันคือสิ่งที่ควรรู้แต่บางสิ่งบางอย่างอาจไม่ถูกใจใครหรือผิดเช่นไรก็บอกกันได้เสมอ จขบ.ยอมรับได้เสมอ แต่อย่าเกรียนกันเป็นพอ

The Diary

Diary F.31/08/2012

ย้อนไปนานหน่อย แต่จะมาเล่าให้ฟัง วันที่ 31 เป็นวันศุกร์ใช่ไหม โรงเรียนจขบ.หยุด จขบ.ก็ออกไปดูของกับเพื่อน ตอนกลางวันเฉียดบ่าน แต่ก็ยังร้อนมากกกกกกกก // วิบัติเพื่อเสียง

ตอนไปดูของแยกไป 2 กลุ่ม จขบ.ไปดูเป็นเพื่อนกลุ่มแรก สุดท้ายก็มาเจอร้านเดียวกัน แล้วจะแยกกันทำไม ก็ไม่อาจทราบ

พวกจขบ.เดินไปดูของต่อ อ๊ะ ยังไม่ได้บอกสินะ ว่าพวกเรามาดูผ้าไปตัดชุด cosplay กัน ก็ตัดชุดเป็นกลุ่มกันนั้นแหละ มีประมาณ โหลหนึ่ง แต่มีร.ร.อื่นรวมด้วยนี้สิ คงแต่งไม่ครบคนแน่เลย T^T

พานอกเรื่องแล้ว ก็ไปดูมาหลายๆร้านล่ะนะ แต่ไม่มีร้านที่มีผ้าที่ถูกใจเลยนะสิ สีใช่ผ้าหนา ผ้าใช่สีไม่ได้ พอได้ก็แพงไป สุกท้ายก็ไม่ได้ซื้อ ได้ดูอย่างเดียวจริงๆ มันก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ไปหลายคน แล้วมันไม่มีแบบไหนที่ถูกใจกันเลย แต่ให้ทำไงได้ล่ะ   ดูเสร็จก็นี้ไปอยู่ที่ร.ร. (แหล่งซื้อไม่ไกลร.ร.ของจขบ.มากนัก เดินก็ถึง)

ไปนั่งกันอยู่ที่โรงอาหารหาอะไรทาน รอบุคลากรคนสำคัญมา เมื่อท่านมาก็คุยเรื่องผ้าที่ไปดูกัน เปิดแบบชุด แบบสี ที่อยากได้ดูกัน แต่ก็ยังไม่ได้ผ้าเลยนี้สิ ปัญหาใหญ่เลยล่ะ สุดท้ายก็แค่ได้ดู ได้คุยเท่านั้นเอง

จขบ.กลับบ้านเกือบๆบ่าย 3 โมง มานั่งดีดกีตาร์ พึ่งซื้อไม่ถึงเดือน สายเพี้ยนซะแล้ว เล่นก็ยังไม่เป็นเลย น่าเศร้าใจเนอะ สุดท้ายก็วางกีต้าร์มาประดิษฐ์อะไรนิดหน่อย แต่ก็ไม่แคล้วเป็นเรื่องที่จขบ.ชอบอยู่ดี นั้นก็คือ การ์ตูน แท้น แท่น มีรูปจะให้ดูด้วย


รูปเบลอไปนิด ถ่ายไม่ชัดเท่าไร ขออภัย

พึ่งได้ทำตัวเดียว เดี๋ยวถ้าว่างจะทำตัวที่ 2 มาให้ดู น่ารักไหม อิอิ

บางคนอาจไม่รู้จักตัวนี้ ตัวที่จขบ.ทำนะ ชื่อ ซากาตะ กินโทกิ มาจากเรื่อง กินทามะ เป็นเจ้าของร้านสารพัดรับจ้าง ใครอยากรู้จัก ถามอากู๋ ได้เลย (กูเกิ้ลนั้นแหละ) 

วันนี้ก็จบลงด้วยประการฉะนี้ กการบ้านยังไม่ได้ทำเลย 555 
อย่าเอาจขบ.เป็นตัวอย่างนะ ไม่ดีๆๆ ลาล่ะ 

วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555

Cartoon ~

  เย้ ~ ~ ~ ~  จขบ.กลับมาแล้วววววว

วันนี้จขบ.จะมาพูดถึงเรื่องที่จขบ.ชอบมากๆๆ อย่าว่าจขบ.ไม่โตนะ ก็แค่ชอบนิดหน่อย แต่ออกจะรักมากมายต่างหากล่ะ ฮะ ฮา ฮ้า นอกเรื่องอีกแล้ว

เข้าเรื่องกันเถอะ จขบ.แค่จะมาพูดถึงความหมายของสิ่งที่จขบ.ชอบในความคิดของจขบ. ถึงจะอ่านของคนอื่นด้วยก็เถอะ    งั้นเข้าเรื่องกันเถอะ ก่อนที่ จขบ.จะพาออกทะเลมากกว่านี้

Cartoon
        การ์ตูน คือ สิ่งที่สร้างสรรค์จากปลายปากกา ดินสอ ที่เป็น 2 มิติ วาดทั้งสิ่งที่เป็นสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิต วาดให้ออกมาเหมือนจริงหรือไม่เหมือนจริงก็ได้ อาจจะสร้างขึ้นด้วยจุดประสงค์บางอย่าง ทั้งวาดเพราะความชอบ ต้องการล้อเลียน ต้องการบอกถึงสิ่งที่ปราถนา ไม่ว่าอย่างไร การ์ตูนก็ถือว่าเป็นศิลปะชนิดหนึ่งเช่นกัน ในสมัียนี้การ์ตูนแพร่หลายมากขึ้น และมีอิทธิพลกับทุกเพศทุกวัย และยังมีอิทธิพลกับสังคมด้วย การ์ตูนได้นำมาเพิ่มในหนังสือเพื่อการเรียนการสอน อาจจะมีในหนังสือพิมพ์เพื่อสื่อให้เข้าใจในสิ่งที่ต้องการให้คนอ่านเข้าใจได้ง่านขึ้น


การ์ตูนการเรียนการสอน 


การ์ตูนสื่ออารมณ์


การ์ตูนล้อเลียน


การ์ตูนหนังสื่อพิมพ์




       การ์ตูนในหลายๆประเทศมีการวาดที่แตกต่างกันไป ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยเช่นกัน และจะเรียกตามประเทศนั้นๆ ซึ่งในปัจจุบันการ์ตูนถือว่ามีอิทธิพลในทุกๆประเทศ



การ์ตูนไทย


การ์ตูนญี่ปุ่น



การ์ตูนจีน



การ์ตูนเกาหลี



การ์ตูนฝรั่ง 

 



       การ์ตูนเป็นสิ่งที่สร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างสวยงาม ขบขัน หรือล้อเลียน ก็ตามแต่ อย่าลืมว่าการ์ตูนของแต่ละที่ แต่ละวัฒนธรรมไม่เหมือนกัน มีความสวยงามต่างกัน อย่าเอามาเปรียบเทียบว่า วาดแบบนั้น แบบนี้สวยกว่า มันต่างกันไป การวาดของแต่ละคนก็เช่นเดียวกัน ไม่มีทางเหมือนกันหรอก ก็เหมือนคนเราที่ไม่มีสิ่งใดจะเหมือนกันไปเสียทุกอย่าง มองในสิ่งที่ดีที่งามก็พอแล้ว เนอะ ^^   พึ่งจะมีสาระ